ตามถึงบ้าน เพราะโยมเอาของเขากลับมาด้วย

ตามถึงบ้าน
ตามถึงบ้าน

เหตุเกิดปี 2549 เป็นช่วงศึกษาดูงานก่อนจบของ นศ ปี 4 เทอม 2 เกิดขึ้นกับแฟนคนเล่า ชื่อน้องนัท นัทและเพื่อนๆ ต้องเดินทางไปดูงานจาก เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ต่อ ชลบุรีอีก 1 คืน เรื่องเกิดที่กรุงเทพฯ คืนแรก

วันนั้นคณะจาก เชียงใหม่ มาถึง กทม. 5 โมงเย็น ก็แยกย้ายเข้าห้องพักโรงแรม เป็นโรงแรมเก่า ชั้นล่างเป็นเหมือนม่านรูด ชั้นบนเป็นห้องพักทั่วไป มีศาลด้านหน้า นัทและเพื่อน 4-5 คนก็ไปไหว้ศาลแล้วแยกย้ายเข้าห้องตัวเอง

คนแรกที่เจอคือเพื่อนชื่อน้ำ น้ำพักกับอุ๋ย สิ่งแรกที่ปรากฏให้เห็นในห้องน้ำ เป็นเศษเส้นผมในชักโครก นัทก็วิ่งมาดูก็กดชักโครกทิ้งไปเลย แล้วบอกว่า “แค่เศษผมเฉยๆ คนที่มาอยู่ก่อนคงกวาดมาทิ้งไว้แล้วลืมกด”

แต่จริงๆแล้วตอนแรกนัทเห็นเป็น ผมผสมเลือดเป็นลิ่มๆด้วย แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนกลัวเลยบอกไปแบบนั้น แต่น้ำและอุ๋ยก็ตัดสินในย้ายห้องไปนอนห้องของนัท นัทเลยชวนเพื่อนหลายๆคนมาเล่นในห้อง

จนเที่ยงคืนเพื่อนก็พากันแยกย้ายกลับห้อง เหลือเพียง น้ำ อุ๋ย ก้อย และนัท ทั้ง 4 คน ขึ้นไปนอนเบียดบนเตียงเดียวกัน โดยที่นัทได้นอนชิดผนังใต้แอร์ พอเคลิ้มๆจะหลับนัทก็ได้ยินเสียงบางอย่างชนกับแก้วคล้ายเสียงชงเหล้า ฟังดีๆก็ใช่เลยมันเป็นเสียงคนชงเหล้า  แต่ตอนนี้มันดังอยู่ในห้อง!!!

นัทพยายามข่มตานอนในใจคิดว่าโดนแล้วแน่ๆ ซักพักได้ยินเสียงเพื่อนพูดเบาๆว่า “พวกแกได้ยินแบบชั้นมั้ย” เพื่อนอีกคนก็ตอบเบาๆว่า “ได้ยิน!!!” ตอนนั้น นัทก็แกล้งหลับอยู่และรู้ในใจว่าไม่ได้เจอคนเดียวแน่นอน

พอเสียงเพื่อนคุยกันจบลง เพื่อนที่นอนข้างๆนัทก็ปลุกให้ไปเปิดไฟหน่อยเพื่อนๆกลัว นัทก็เลยฝืนใจลุกไปเปิดไฟให้ พอล้มตัวนอนซักพักเดียวก็ได้ยินเสียงเดิมเสียงชงเหล้าดังขึ้นมาอีก แล้วน้ำก็สะดุ้งตัวลุกขึ้นมาปลุกเพื่อนทุกคน เล่าให้ฟังว่า

ขณะที่น้ำกำลังหลับอยู่ก็ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดแดงกำลังชงเหล้าอยุ่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วพูดกับน้ำว่า “กินหล้าไม่เห็นชวนกันบ้างเลย” น้ำเลยปลุกเพื่อน แล้วพอกำลังเล่าอยู่เสียงชงเหล้าก็ดังขึ้นมาอีก น้ำก็ถามเพื่อนว่า “ได้ยินเสียงใช่มั้ย” 

พอพูดจบนัทก็หยิบผ้าห่มวิ่งออกจากห้องไปเลย ทุกคนก็รีบวิ่งตาม แล้วก็ไปขอนอนห้องเพื่อนคนอื่นที่เพื่อนนอนอยู่ 2 คน นอนรวมห้องเดียวเป็น 6 คนเลย  โดยจะมีคนนอนบนเตียง 4 คน อีก 2 คนนอนพื้น  นัทก็ลงมานอนที่พื้นหน้าทีวี เจ้าของห้องชื่อ เอ๋ ก็นอนที่พื้นติดกับเตียง ซึ่งเตียงจะมีช่องว่างใต้เตียงอยู่ ทุกคนก็จัดที่แล้วก็นอนกันทันที เหลือแค่เอ๋ที่ยังคุยโทรศัพท์กับแฟนอยู่

นัทก็ทำท่ากำลังจะหลับแต่หูยังได้ยินเสียงเอ๋คุย สักครู่เอ๋ก็ถามแฟนว่าอยู่กับใครทำไมมีเสียงผู้หญิง แฟนเอ๋ก็บอกว่าอยู่คนเดียวไม่เห็นได้ยินเสียงใครเลย  เอ๋ก็ยืนยันไปได้ยินอยู่นี่แหละแถมเสียงดังขึ้นด้วย แล้วเอ๋ก็บอกให้แฟนหยุดพูดก่อน “เสียงมันดังใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ ดังมาจากแถวนี้แหละ” พอพูดเสร็จเอ๋ก็ร้องกรี๊ดดังลั่นห้อง แล้วก็มีอาการชักตัวเกร็งเพื่อนๆพากันตกใจตื่นขึ้น แล้วหนึ่งในนั้นก็ไปเรียกอาจารย์มา

เวลาผ่านไป 2-3 ชม เอ๋ก็ค่อยยังชั่วขึ้น กลับมามีสติ แล้วก็เล่าให้ทุกคนฟังว่าตอนที่คุยโทรศัพท์ ได้ยินเสียงผู้หญิงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงจากปลายสาย แต่พอให้แฟนหยุดพูดแล้วฟังดีๆ

เสียงนั้นดังตลอดมาจากใต้เตียง พอเอ๋มองไปใต้เตียงก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งค่อยๆคลานมาหา แล้วเอื้อมมือมาหาเอ๋ เท่านั้นเอ๋ก็ตกใจร้องออกมาแล้วหมดสติไป พอทุกคนได้ฟังก็เลยอยู่เป็นเพื่อนเอ๋แล้วพากันย้ายมาห้องอาจารย์

ตอนเช้านัทก็เอากุญแจไปคืนเคาน์เตอร์ เลยถือโอกาสเล่าเรื่องเมื่อคืนให้พนักงานฟังแล้วสอบถาม พนักงานก็แอบบอกนัทว่า ห้องที่เจอเศษเส้นผมเคยมีเหตุฆ่ากันตาย หญิงบริการถูกฆ่าหมกไว้ใต้เตียง

กว่าทางโรงแรมจะรู้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ปกติห้องนั้นจะไม่เปิดให้เข้าพัก แต่พอดีทาง คณะของนัทต้องการห้องเยอะ เลยต้องเปิดใช้เพราะห้องมีไม่พอ โดยที่ อีก 2 ห้องที่เหลือก็ไม่ได้เคยมีอะไรเกิดขิ้น  

เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพราะวิญญาณหญิงคนดังกล่าวได้ติดตามไปห้องที่เหลือด้วย… ดังนั้นคืนที่ 2 ทั้งสาขาเลยพากันยกขโยงไปเที่ยวกันหมด เหลือแต่ก้อยที่ไม่สบายต้องนอนพัก นัทจึงอาสาเฝ้าไข้ให้ สรุปทั้งสาขาเหลือนัทกับก้อยแค่ 2 คนอยู่โรงแรม โดยห้องสูทที่พักนั้นจะมีเตียงใหญ่ 2 เตียง เตียงเล็ก 1 เตียง นัทเลือกนอนเตียงเล็ก ให้เพื่อนที่ไม่สบายนอนเตียงใหญ่ 

ด้วยความกลัวก็ไม่ปิดไฟ พอใกล้จะหลับก้อยก็เรียกนัทให้อยู่เป็นเพื่อนก่อน นัทก็ตอบว่า “ไม่ต้องห่วงยังไม่นอนหรอก” สักพักนัทก็เรียกเพื่อน ปรากฏว่าก้อยหลับไปแล้ว นัทก็เลยจะนอนบ้าง พอกำลังจะหลับ

จู่ๆก็ได้กลิ่นแป้งแรงมากพร้อมกลิ่นลิปสติก นัทจึงบอกออกไปว่า “ขอนอนเถอะนะ เพราะเมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเลย” พอพูดจบ จากกลิ่นแป้งหอมกลายเป็นกลิ่นซากเน่าๆลอยมาจากหัวเตียง นัทก็พยายามกลั้นใจนอนจนหลับไป  

ตอนเช้าก้อยก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดสีแดงนั่งอยู่บนหัวเตียงมองนัทอยู่ และกำลังคุยกับนัทด้วย บอกว่าขอให้ทำบุญให้หน่อย เขาติดต่อนัทได้คนเดียว นัทเลยรู้ว่ากลิ่นที่เจอเมื่อคืนน่าจะมาจากเขาที่มาขอส่วนบุญ…  

หลังจากนั้นคณะดูงานก็ต้องไปต่อที่ จ.ชลบุรีตามกำหนดการ ซึ่งนัทกะไว้ว่าจะไปทำบุญ ให้ผู้หญิงคนนั้นหลังจากที่กลับไปถึงเชียงใหม่แล้ว พอทั้งคณะไปถึงชลบุรีก็พากันเก็บของเข้าบ้านพัก อยู่ๆอุ๋ยก็ร้องขึ้นมาว่ามีอะไรไม่รู้แข็งๆอยู่ในกระเป๋า นัทก็เลยถามว่าหวีรึเปล่า อุ๋ยบอกว่าไม่น่าจะใช่ จึงเปิดกระเป๋าหน้าดู สิ่งที่เจอคือกุญเจห้อง ห้องที่เอ๋เจอผู้หญิงคลานอยู่ใต้เตียงนั่นแหละ

แต่นัทยืนยันได้เลยว่าเป็นคนเอากุญแจดอกนั้นไปคืนและขอเปลี่ยนห้องเองกับมือ อาจารย์จึงอาสาเอากุญแจไปคืนตอนนั้นเลยทันที หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก จนเสร็จการศึกษาดูงาน…

เรื่องทั้งหมดควรจะจบแค่นั้น แต่ไม่ใช่ หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์อุ๋ยเล่าว่า ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพ เวลาจะนอน พอปิดไฟจะเห็นผู้หญิงชุดสีแดงกระโปรงสั้นยืนหันหน้ามามอง แต่อุ๋ยมองไม่เห็นใบหน้าเพราะผมของเธอบังหน้าไว้ เธอคนนั้นจะมายืนหน้าตู้เสื้อผ้าทุกวันแต่พอเปิดไฟก็จะหายไป อุ๋ยเลยต้องนอนเปิดไฟทุกวันเป็นเวลา 2 อาทิตย์มาแล้ว 

จนกระทั่งวันนึงเพื่อนๆไปนั่งเล่นที่หออุ๋ย มีการซื้อผลไม้มากินกัน พอปอกเปลือกมะม่วงเสร็จก็วางมีดไว้ที่หัวเตียง โดยหันปลายมีดไปทางตู้เสื้อผ้า พอเพื่อนๆกลับไปหมด ตกกลางคืนอุ๋ยเล่าว่า ผู้หญิงที่มักจะยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า วันนี้ไม่ได้ยืนเฉยๆ มีการกระโดดมาคร่อมตัวอุ๋ยพร้อมกับบีบคอและบอกว่า “เมิงลบหลู่กรุ อยากตายมากใช่มั้ย” อุ๋ยก็พยายามต่อสู้จนหลุดมาได้

ตอนเช้าอุ๋ยไปเล่าให้เจ้าของหอฟัง เจ้าของหอเลยพาไปหาพระครูที่เคารพ พระครูบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นโกรธที่พวกเราเอาด้านคมมีดหันไปหาเขาเพราะเขานั่งอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ก็เลยจะมาเอาชีวิตอุ๋ย แต่โชคดีที่อุ๋ยยังไม่ถึงฆาตก็เลยรอดมาได้ 

อุ๋ยถามว่าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาได้ยังไง พระครูบอกว่าอุ๋ยเอาของของเขาติดกลับมาด้วยเขาก็เลยตามเข้ามาได้  อุ๋ยบอกว่าไม่มีอะไรติดมาแน่นอน พระครูบอกให้ไปหาดีๆ  อุ๋ยกลับไปที่ห้องค้นหาจนเกือบหมดห้อง จนกระทั่งไปค้นที่เป้ใบที่ใส่เสื้อผ้าเอาไปพักที่กรุงเทพฯ 

หาอย่างละเอียดก็พบเศษผมที่ก้นกระเป๋า ทีแรกก็คิดว่าเป็นผมตัวเองไม่ก็ของเพื่อนๆ แต่พอเอาไปเทียบกับของใครๆก็ไม่มีใครผมยาวเท่านั้นเลย จึงสรุปว่าที่เขาตามมาได้ก็เพราะเส้นผมเส้นนั้นติดมากับกระเป๋านี่แหละ  พระครูก็บอกให้เอาเส้นผมไปเผาเขาจะได้อยู่ในภพภูมิที่ดีกว่า  หลังจากเผาเส้นผมเสร็จ อุ๋ยก็ไม่เจอผู้หญิงคนนั้นอีกเลย…

ขอบคุณที่มาพันทิป

ติดตามอ่านเรื่องเล่าผีต่อได้ที่ คลังหลอน

Previous articleเดลิเวอรี่ ทุก 3 ทุ่ม พนง.คนนี้จะมากดกริ่งที่หน้าห้อง
Next articleยุติการเผยแพร่