เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ แถวๆ ซอยลาดพร้าว 130 ตอนที่บ้านกำลังต่อเติม ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ ได้เข้ามาดูครั้งนึง เข้ามาในบ้านเรารู้สึกอึดอัด
ระหว่างกำลังจะเดินขึ้นชั้น 2 เราเห็น “ช่วงขาของผู้ชายสูงๆใส่กางเกงสีน้ำเงินเข้ม เสื้อสี่น้ำเงินเข้ม (คล้ายๆชุดซาฟารี)เดินนำหน้าเราขึ้นไป” ตอนนั้นก็คิดว่าคงเป็นเจ้าที่ เลยไม่ได้สนใจ
จนต่อเติมเสร็จเรียบร้อย ย้ายของเข้ามาอยู่ พึ่งสังเกตุเห็นว่า บ้านเหมือนอยู่ตรงทางสามแพร่ง แม่(บุญธรรม)ก็หากระจก 8 ทิศ บานใหญ่ๆ มาสะท้อน ทางที่ตรงข้ามกับบ้าน ตัวเราเองไม่ได้สนใจหรือใส่ใจ
อะไรมากมาย กับทางตรงนั้น แล้วก็ไม่เคยเอะใจ
ห้องนอนเรา เราเอาไว้นอนตอนกลางวัน ส่วนกลางคืน จะนอนที่ห้องใหญ่ กับน้องอีก 2 คน เพราะกว่าจะเม้ามอย กว่าจะดูหนังจบ ก็ขี้เกียจกลับห้องตัวเอง เปลื่องไฟด้วย
ช่วงกลางวัน ชั้นล่างจะเป็น ออฟฟิตเล็กๆ มีพนักงาน ประมาณ 7-8 คน โต๊ะทำงานของเรา จะอยู่ช่วงระหว่างกลางบ้านส่วนหน้า หันหน้าไปทางขึ้นบันไดแต่โดยปกติ… เราจะไม่ค่อยได้อยู่บ้านอยู่แล้ว
ยิ่งโต๊ะทำงานไม่ค่อยจะได้นั่งทำงาน นอกจากช่วงเช้าก่อนจะออกไปข้างนอก เราจะนั่งประจำ ตั้งแต่ย้ายบ้านมาสามสี่วันเราก็จะนั่งทุกวัน
แต่ทุกครั้งที่นั่งตรงนั้นเมื่อไหร่ เราจะเห็น….”ผู้ชายคนที่ใส่ชุดซาฟารีเดินขึ้นลงบันไดตลอด หรือ บางครั้ง ผู้ชายคนนี้จะเดินผ่านหลังเรา แล้วสักพักก็จะเห็นผู้ชายคนนี้เดินขึ้นบันได”
ทุกๆ ครั้งที่เรานั่ง แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ เพราะต่างคนต่างอยู่ แต่เราเริ่มแปลกใจตรงที่ ทำไมช่วงเวลาอาบน้ำ (เราจะอาบน้ำที่ชั้น 2) เราจะเห็นลูกตาคนแดงๆ อยู่ตรงหน้าต่างระบายอากาศตลอดเลย ตอนแรกคิดว่าตัวเองตาฝาด เพราะพอเราหันไปเห็นแวปๆ พอหันกลับไปมองอีกที ก็จะไม่เจออะไรแล้ว จนครั้งที่ 8 (ถ้าจำไม่ผิด) ตอนนั่นช่วงเวลา 4 ทุ่มกว่าๆ เรากำลัง ถูสบู่แล้วร้องเพลงอย่างมีความสุข แต่ครั้งนี้ เราเลือกที่จะหันหน้าไปทาง หน้าต่างระบายอากาศ คือปากร้องแต่ตาอะคอยมองหน้าต่าง คิดว่ายังไง……
‘ต้องเจอกูแน่ๆ วันนี้ แต่ขอให้เห็นชัดๆ’
เท่านั้นละ ระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ มันเหมือนเห็นอะไรแวปๆ ตรงห่างตา แทนที่เราจะหันกลับไปมองใหม่ เรานิ่งกล้ม แล้วร้องเพลงต่อไป นับ 1-10 ในใจ รอคอยอย่างใจเย็น แล้วเงยหน้ามองตรงหน้าต่าง เราเห็น ….. “ลูกตาสีแดงๆ ตาโปนๆ มันจ้องตาเรา เราก็จ้องตามัน สายตาประสานกันพอดี”
เรารีบวิ่ง 2-3 ก้าวเพื่อที่จะเหยียบชักโครกให้สายตาเราเสมอกับหน้าต่างจะได้เห็นมันชัดๆ แต่ เจือกลื่นสบู่ที่เท้าเหยียบชักโครกพลาดปากเกือบจะจูบกับชักโครก แม่มเจ็บใจมาก ข้อเท้าพลิกก้นกระแทก ปากเกือบแตก นี่คืออารมณ์ตอนนั้น แบบ โมโหตัวเองก็โมโห โมโหผีแม่มก็อย่างโมโห ตอนเดินออกมาจากห้องน้ำตอนนั้น ต้องทำนิ่งๆ กลัวน้องถาม แล้วจะหัวเราะ
ก็บอกน้องเฉยๆ ว่าเนี้ยพี่แม่มเจอผี แอบดูตอนอาบน้ำ ระวังละกันผีแม่มลามก บลาๆ ด่ายาววว น้องอีกคนก็บอก เออรู้สึกเหมือนกันว่ามีคนแอบดูตลอด ตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง พอพี่พูดนี่แสดงว่าหนูไม่ได้รู้สึกไปเองละ
ผ่านไปได้ 2-3 วันจากวันนั้น ประมาณเที่ยงคืน เราก็เล่นมือถือ สักพักเหมือนเคลิ้มๆ เรารู้สึกว่ามีอะไรมาจักกะจี้ตรงเท้า เราก็สะดุ้ง แล้วก็มองไปที่ปลายเตียง (เราจะมีโคมไฟสีส้มแบบปรับระดับได้เอาไว้อ่านหนังสือกับเอาไว้เวลานอนก็จะปรับเป็นแสงสีส้มแบบสลัวๆ ไว้ตรงหัวเตียงตลอด)
แต่ตอนนั้นเราก็ไม่เห็นอะไรนะ เราก็นอนต่อแต่คือตอนนั้นหายเคลิ้มไปแล้ว เอามือถือมากดดู เสื้อผ้าที่ก่อนหน้านี้ดูค้างไว้ กด cf ไปได้สามสี่ตัว ทีนี้รู้สึกว่ามีคนจับอีกข้อเท้า ทั้งที่ยังไม่ได้หลับ ก็มองไปที่ปลายเท้า อ่าวก็ไม่มีอะไร ยังคิดว่าเท้าตัวเองอะไปเกี่ยวกับ ผ้าห่ม หรือ ไม่ก็สายหมอนข้าง (แต่ก็ไม่ได้นอนเขย่าเท้านะคะ)
เราเลยปิดโทรศัพท์ เตรียมตัวนอน (ปกติเป็นคนที่ก่อนจะนอน จะคิดเรื่องที่ตัวเองทำมาในแต่ละวัน ว่าทำอะไรไปบ้าง มีตรงไหนที่ต้องแก้ไข กับ คิดว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรก่อน อะไรหลัง จะไปไหนบ้าง แล้วจะกำหนดลมหายใจตัวเอง จนกว่าจะหลับ) ในระหว่างที่เรากำหนดลมหายใจ หายใจเข้าพุทธหายใจออกโท ไม่น่าเกิน 5 นาที ทีนี้จับอีกแล้ว เราก็มองอีกว่าสรุปมันคืออะไรฟระ แต่รอบนี้เราเห็น
“ผู้ชาย หน้าตอบๆ ผอมๆ ตาแดงโปนๆ หน้าขวามือเรานะคะ ของผู้ชายคนนี้เละๆ แล้วมือมันเป็นแบบเล็บกุดๆ เหมือนเปื้อนคราบดินหรือคราบน้ำมัน จับข้อเท้าเรา แล้วเอาลิ้นของมันที่ยาวๆ ยาวเหมือนลิ้นหมาอะค่ะ มาเลียตรงเท้า ชอนไชตรงแถวๆ นิ้วโป้งเท้า”
ตอนนั้นเราสะบัดขาเลย แล้วก็ด่าเลยว่า อายเฮีย!!! เป็นผีแล้วยัง ลามก โรคจิต อีกกนะอะ เราก็เอาเท้าเก็บเข้าผ้าห่ม ก็สวด อิติปิโส จนเราหลับ สะดุ้งตื่นอีกรอบ (อันนี้เราไม่ได้ดูเวลานะคะเลยไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน) เราหันซ้ายหันขวาค่อยๆปรับสายตา
ทีนี้เป็นผู้ชายคนเดิม แต่รอบนี้มันยืนคะ ข้างเตียงด้านซ้ายมือเรา (เราไม่รู้ว่ามันยืนอยู่นานแค่ไหนแล้ว) ที่เห็นชัดเลยมันใส่ชุดสีน้ำเงินเกือบดำ แต่ไม่ดำ แล้วท่าที่เราเห็นคือ มันหันด้านข้าง ขนาดกับเตียงแล้วหันหน้าไปทางปลายเท้า(แต่อันนี้เราไม่แน่ใจนะคะที่คิดว่ามันยืนท่านี้เพราะมือมันอะคะด้านที่แบอะหันมาด้านเรา)
แล้วตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นไปมันบิดผิดรูป(เพราะคนเราปกติ เวลาก้มมาทางคนที่นอนคือต้องหันหน้าเข้าด้านข้างเราใช่ป่ะคะ แต่นี้ยืนหันข้างให้หันไปทางปลายเตียง) มันบิดๆ จน
“หน้ามันพอดีกับหน้าอกเรา แล้วหน้ามันอะเสยมามองหน้าเราพร้อมกับดมหน้าอกเราเสียงมันแบบ ฟุ๊ดๆๆๆๆ ฟู๊ดดดดดดดดดดดดด แล้วลิ้นเลียๆ ริมฝีปากที่มีอยู่ครึ่งเดียวของมัน”
จนทีนี้เราพูดเลย อายผีเฮีย จะไม่หยุดใช่มั้ย จะเล่นกับกูแบบนี้ใช้มั้ย ถ้ายังไม่ไป มันสวนเรามาว่า มันอยู่มาก่อนเราตั้งนาน มันไม่ไป เออกูจะแช่งแล้วนะถ้ายังไม่ไป(มันไม่กลัวนะคะ) ใช่มั้ยไอ้ผีเห้ที่แอบดูคนที่บ้านอาบน้ำ เดียวพรุ่งนี้เช้าก่อนเดียวได้รู้ ไม่ไปเดี๋ยวกูจะให้คนมาไล่ออกไปเอง เราพูดแค่นั้นนะคะ ที่นี้เราปิดไฟสีส้มบนหัวเตียงเปิดยูทูปในโทรศัพท์เปิดธรรมะ แล้วในใจสวดอิติภิโส จนหลับ อะคะ ตอนเช้าตื่นมาน้องก็ถามว่าเห็นอะไร ก็เล่าให้ฟัง น้องบอกได้ยินละแต่ไม่กล้าทักรู้แล้วว่าเห็นอะไร
เราเริ่มมาประมวลผล ว่าไอ้ชุดสีน้ำเงิน แล้วเป็นชุดที่เหมือนที่เราเห็นทุกวันแล้วเราคิดว่าเป็นเจ้าที่ ที่เดินผ่านเราไปมาเดินขึ้นลง บันไดบ้านบ้างละ แอบอยู่ตรงมุมตู้มึดๆบ้างละ สูงๆ มันคืนไอ้นี่เอง ทำเนียนเหมือนมีสกุล ที่แท้ก็ผีสาถุนนนนนมาขออาหารกินฟรี
เราก็เลยโทรหาอาจาร์ยที่แม่นับถือเล่าให้ฟัง ท่านก็ให้ที่บ้านไปไหว้ศาลใหญ่ของหมู่บ้าน แล้วก็ทำอีกสองสามอย่าง ตามที่ท่านบอก
วันนั้นทั้งวันเราไม่เห็นมันในบ้านนะคะ แล้ววันนั้นเราไม่รู้นึกยังไง เราออกมายืนหน้าบ้าน แล้วจังหวะที่เหมือนไฟตรงถนนกระพริบสองสามสีก่อนจะติดอะ มันดึงดูดสายตาเราให้ไปมอง ตรงตรอกที่ตรงข้ามกับบ้าน เราเห็นมัน ยืนอยู่ตรงหน้าตรอกนั้น แล้วมองเราแบบโกรธที่มาไล่มัน เรามองตอบนะคะ แล้วถามมันว่าเป็นไงล๊าาาา สบายดีนะ แล้วก็เดินเข้าบ้าน
ป.ล อันนี้เป็นเรื่องแรกที่เจอที่บ้านหลังนี้นะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เจอในบ้านหลังนี้ ทุกวันนี้ก็ยังมีเจออยู่เบยย
*****โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องราวที่คุณได้อ่านเป็นความเชื่อส่วนบุคคล*****
ที่เล่ามาไม่ได้ให้ใครมาเชื่อนะจ๊ะ เพราะก็บอกอยู่ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ถ้าแปลคำว่าส่วนบุคคลออก ก็จะรู้ว่ามันเป็นความเชื่อ ส่วนตัวของเรา ไม่ได้ให้ใครมาเชื่อตาม อ่านแล้วไม่เชื่อ คิดสะว่าอ่านเพื่อความบันเทิงละกันนะคะ ช่วยวิจาร์ณด้วยละกันว่าต้องเพิ่มต้องปรับตรงไหน เพื่อวันนึงเราจะเอาไปทำละคร ทำซีรี่กับ เค้าบ้าง หรือเขียนรวมเล่ม ก็น่าจะดี. ยิ้ม
รูปนี่คือฝั่งตรงข้ามกับบ้านเรานะคะ
ขอบคุณเรื่องหลอนจากระทู้ผีพันทิป