โรงแรมเก่ากลางเมือง

โรงแรมเก่ากลางเมือง
โรงแรมเก่ากลางเมือง

“เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน”

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 18-20 ปีที่แล้ว ไม่ได้เห็นผีชัดเจนหรือน่ากลัวเหมือนตอนนี้ แต่ช่วงวัยนั้นค่อนข้างตามใจ ยังไงก็ได้กับเพื่อนมากกก จนมีเหตุการณ์ที่ทำให้หลอกหลอน ขนหัวลุกตลอดเวลา

ในจังหวัดนครสวรรค์จะมีโรงแรม โรงแรมหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตอนสมัยนั้นก็ยังไม่ได้เก่ามาก (แต่ก็เก่าอยู่) ทางโรงแรมเหมือน ไม่ค่อยมีคนเข้าพัก เลยเปิดให้บริการเป็นเช่ารายเดือน ที่ราคาถูกมากกกก

เพื่อนเราเป็นเด็กต่างอำเภอ เห็นเค้าปิดประกาศก็สนใจ เพราะเที่ยบกับราคาหอที่เพื่อนเช่าอยู่ถูกกว่ากันครึ่งๆ แล้วมีครบ แอร์ น้ำอุ่น ลิฟท์ (สมัยนั้น WiFi ยังไม่มี โทรศัพท์ทันสมัยสุดก็ 3310)

ตอนที่เพื่อนไปดู ห้องพักเราไม่ได้ไปด้วยนะคะ เรารู้ก็ตอนบอกว่าให้ไปช่วยขนของหน่อย เราก็ถามเพื่อนนะว่าไปได้หอที่ไหน ก็บอกว่าใกล้ๆ บ้านเรา เราก็โอเคเดี๋ยวไปช่วย

พอถึง โรงแรมเราก็แปลกใจว่าทำไมเค้าถึงทำเป็นรายเดือน  เราก็บอกกับเพื่อนว่าบรรยากาศน่ากลัวเหมือนกันเนอะ วังเวง วิเวก โหวงเหวงมากกก แต่ก็ขำๆ กันนะคะ ก็ขนขึ้นลิฟท์ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ ชั้น 10 หรือ 11 นี่ละคะ พอลิฟท์เปิดออก จะหลอดไฟนีออนยาวๆ แขวนแบบเหมือนพึ่งซื่อมาแขวน ห้อยๆ ช่วยให้ความสว่าง

ด้วยปกติเป็นคนชอบสงสัย ก็ถามเพื่อนนะ ว่ามีคนมาอยู่ยังหวะ มีใครอยู่อีกป่าวชั้นนี้ แม่มน่ากลัว แล้วคือพออกจากลิฟท์ ด้านซ้ายมือ คือมึดมากกกกกกกกก ด้านขวาจะมีไฟนีออน ขาวๆ แขวนไว้ให้แสงสว่างฝั่งขวามือ แต่ด้วยไม่ได้คิดอะไรเยอะ ก็ขนๆ จนรอบสุดท้าย เราลงมาเอาของกับน้องสาวเพื่อน กดลิฟท์ แต่รอบนี้ลิฟท์มันหยุด อยู่ตรงชั้นสอง เราก็คิดว่าใครจะขึ้นไปด้วยป่าว 

พอประตูเปิดก็ไม่มีคน เราเองเลยโผล่หน้าไปมองซ้ายขวา ก็ไม่มีคน แล้วมันแปลกตรงที่ว่า ชั้นสองเหมือนเค้าทิ้งร้าง เพราะเก้าอี้ โต๊ะ มันวางไม่เป็นที่เป็นทาง เศษกระดาษ เกลื่อนพื้นไปหมด ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรนะคะ ก็เฉย ๆ 

แล้วคืนนั้นเพื่อนบอกว่าให้นอนเป็นเพื่อนหน่อย มันแปลกที่ มันกลัว ที่น่าแปลกกว่าคือ ทำไมมีห้องเพื่อนเราแค่ห้องเดียว นอกนั้นเงียบสนิท เราก็คิดอีกว่าคงไม่มีอะไรหรอก เค้าคงยังไม่กลับเข้ามา หรือ เพื่อนอาจจะเป็นลูกค้ารายแรกที่เข้ามาอยู่

แล้วด้วยสมัยนั้นไม่ค่อยจะสงสัยสังเกตวิเคราะห์อะไรมากมาย เราก็เฉยๆ ไม่ได้สนใจ นอนคืนแรก เราแบบคันตัว มากนอนไงก็นอนไม่หลับ แต่ก็คิดว่าคงแปลกที่

คืนที่2 ก็อาการเดียวกัน แล้วก็นอนไม่หลับ  ก็ยังคิดว่าแปลกที่อยู่

แต่คืนที่ 3  ปวดฉี่ เราลุกมาเข้าห้องน้ำ แต่ต้องชะงัก เพราะว่าในโถส้วม มันมีก้อนเลือดใหญ่ ๆ ลอยตุ๊บป่องอยู่ในน้ำ เราก็โวยวายว่าใครอึแล้วไม่กดส้วมหวะ เพื่อนก็บอกว่ายังไม่ได้อึเลย แล้วเราก็เรียกเพื่อนไปดูว่ามันคืออะไร เราสามคนเอาหัวมุงดูโถส้วม แต่มันไม่ใช่ อึของใครอะคะ มันเป็นก้อนเลือด และมีเมือกๆ เลือดลอยอยู่

สรุปไม่มีใครรู้ สงสัยกันหมดนะคะ แต่ใครจะกล้าเอาอะไรมาเขี่ย ๆ หรือก้มไปดูใกล้ๆ พอหาข้อสรุปไม่ได้ว่าคืออะไร เราก็กดทิ้ง เพราะว่าฉิ่งฉ่องจะแตกแล้วตอนนั้น

วันที่ 4 วันนั้นเราก็บอกเพื่อนเดียวจะกลับบ้านแล้วนะ แม่ตามแล้ว เพื่อนก็บอกนอนอีกคืนดิ คืนนี้ไปเที่ยวกัน เราก็โอเค จนไปเที่ยวกลับมาห้อง พร้อมเพื่อนอีก 4 คน รวมน้องสาวเพื่อน เราด้วย เป็นหก แล้วเตียงที่ห้องเป็นเตียงเดียวและแยกเบาะออกมาได้อีก เพื่อนก็ช่วยกันแยกเตียง พอดึงเตียงออกมา เท่านั้นละ โหยยยย !!!

มันเป็นคราบๆ สีน้ำตาล ตอนนั้นทุกคนคือ เงียบมองหน้ากัน แล้วลากเตียงกลับไปไว้ที่เก่า แล้วมากระจุกอยู่ ตรงเตียงที่เรานอน เราก็บอก โอ่ยยย ไม่มีไรหรอก (ตอนนั่นเกือบจะตี 4 ได้นะคะ ถ้าสมัยเราผับ เค้าจะเปิดถึง ตี 5)

สถานการกลับสู่ความปกติ เราหลับไปตอนไหนไม่แน่ใจ แต่ตื่นมาตอนได้ยินเสียงสวดแปลกๆ ข้างๆ หู ลืมตาขึ้นมา เห็นเพื่อนเล่นไพ่กันอยู่ มองออกไปนอกหน้าต่างคือคิดว่าเช้าแล้วแต่ไม่ใช่ แล้วฝนตกหนักมาก เราก็คิดว่าคงเป็นเสียงลม ทำให้ได้ยินเสียงสวด สักพักเสียงมันดังขึ้น เราก็ถามเพื่อนว่าได้ยินเสียงอะไรม๊ะ กูได้ยินเสียงเหมือนคนสวดอะไรสักอย่าง เพื่อนทุกคนสายหน้าหมด เราก็คิดว่า เออ หูแว่วเอง

จนเพื่อน อีกคนมองหน้าเรา แล้วค่อยๆ ลุกมาหาเราที่เตียง คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ทุกคนหน้าซีดหมด

เราก็แบบอะไรของพวกเมิง กุอึดอัด จนมันบอกกุได้ยินละ ทีนี้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ เราเลยบอกว่า ลงไปข้างล่างเหอะ กุว่าแปลกๆ หวะ

พอออกจากห้อง ตรงทางเดิน จากไฟสีห้าดวง เหลือ 1 ดวงที่ติดตรงหน้าลิฟท์ แล้วมันมึดมากกกกก เราก็เกาะกลุ่มกันเดินไป แต่ลิฟท์มันไม่จอด จนคิดว่า เดินลงกันมะ ตรงข้างลิฟท์ จะเป็นบันได ก็ตกลงว่าเดินลงกัน แต่เดินยังไม่พ้นชั้นที่เราอยู่ มันมึดไม่มีแสงสว่าง คือ มันจะเป็นไปไดัไงอะคะ ว่า ชั้นล่างตรงนั้นไม่มีคนพัก แล้วมันมีแค่ชั้นที่เราอยู่กันหรอ เราก็ไม่กล้าเดินลงกัน มันน่ากลัวมากอะคะ มึดแบบไม่เห็นอะไรเลย

สักพัก ไอ้ไฟดวงนั้นมันดับ แล้วเสียงสวดดังมากก เพื่อนก็กรี๊ด เราก็กลัวนะ แต่พยายามแบบมีสติ เลยบอกว่าอย่าวิ่งนะ จับกันไว้ เดียวกลับห้องก่อน ใกล้จะเช้าละเดียวค่อยออก กันอีกแปปเดียว

ในใจเราแบบ อยากกลับบ้านแล้ว แม่จ๋าหนูกลัวมาก ฮืออ เรารวมทั้งเพื่อน 6 คน ค่อยๆ พากันเดินกลับห้อง เข้าห้องมาก็เออไม่มีอะไร ไอ้เสียงสวดมันเงียบ หายไปเราก็ไม่ไดัสนใจฟังมากใช่ปะคะ แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันเงียบสงัด แบบ เงียบหูวิ้งๆ เลยอะ

ทุกคนเข้าห้องมาและกระจุก กันอยู่ตรงประตู แล้วจังหวะนั้น ประตูห้องน้ำ เป็นเสียงคนกระชากประตูเปิด ทั้งที่ไม่มีใคร กึ๊กๆๆๆๆ เงี้ย เราวิ่งไปกระจุกกันอยู่ตรงมุมห้อง แล้วเสียงสวดที่หายไป อิบ้า มันกลับมาอีกแล้ว

ในห้องน้ำก็เสียงกึ๊กๆ หลอนประสาทมากตอนนั้น ไอ้คนที่เมาก็หายเมาสนิท แต่…อะไรรู้ปะคะ เราทั้งหมด เห็นเพื่อนอีกคนนอนอยู่บนเตียงเตียงนั้น แบบไม่ไหวติง  

ตอนออกจากห้อง มันก็ออกไปกับเรา กลับเข้ามาก็พร้อมกัน แล้วตอนนับว่าออกมากันครบหรือเปล่า

ก็ครบ แล้วทำไมอยู่ดีดี มันไปนอนตรงนั้น ไม่กลัวหรือไง แต่เพื่อนคนนี้ มันเกาะแขนเราตลอดเวลานะคะ

เราก็เอะใจ ขนในตัวนี่ไม่มีที่จะให้ลุกได้อีกแล้ว แล้วมันหลอกหลอนตรงที่ ..

คนที่จับแขนเราอยู่อะใคร เราแบบ เหมือนคนใกล้บ้าแล้ว จนเราค่อยๆ หันไปมองเพื่อน อิคนที่นอนอยู่บนเตียงงง มันจับแขนเราอยู่ หน้าแบบ ซีดมาก อาว แล้วอิคนบนเตียงอะใคร บนเตียงเหมือนรู้ว่า พูดถึง….

คิดสภาพนะคะ มันนอนหันหน้าเข้าข้างฝาตะแคงข้าง คอมันค่อยๆ หมุนมา ทางพวกเราที่อยู่ตรงมุมมห้อง

แบบมันน่ากลัวมากอะ เราก็สวดวนๆ แค่นโม มันหายไปตอนไหนนี่จำไม่ได้นะคะ จนแสงของขอบฟ้าค่อยๆ มา เรากระจุกกันตรงนั้นยันแปดโมงเช้า เราค่อยๆ เรียกสติเพื่อน แล้วก็บอกไปบ้านกุกันก่อนเถอะ

ไอ้คนที่ฉี่แตก ก็ไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ เรากวาดของๆ เราลงถุงดำเลย จนเรียบร้อย กดลิฟย์ลง

พอเข้าไปในลิฟย์ เจอป้าแม่บ้าน เราก็คุยนู้นนี้ ป้าแกก็หน้าเสียๆ แล้ววววววว ลิฟย์ มันจอดตรงชั้น 2 ที่เราบอกว่า อ่าวใครกด มันไม่มีคน ป้าแม่บ้านก็พยายามกดปิดๆๆๆๆๆๆ แล้วมันไม่ปิดมันไม่ลง สิ่งที่ป้าแม่บ้าน ทำกับพวกเราคือ ป้าแกวิ่งหนีคนแรก คิดดูเถอะคะ แล้วพวกเราผู้หญิง 5 กระเทย 1 จะรออะไร 

หลังจากวันนั้น เพื่อนเราโทรให้ทึ่บ้านมารับกลับบ้านย้ายออกทันที แต่เพื่อนเราคนนั้นไม่เหมือนเดินแล้วนะคะ ตั้งแต่เหตุการณ์นั่น เพื่อนคนนี้กลายเป็นคนช้าๆ ไปเลย แล้วก็ตกใจง่าย แล้วก็ดูระแวงตลอดเวลา แล้วนี่ติดต่อกันไม่ได้ มา 5-6 ปีแล้ว อยู่ดี ๆ เพื่อนคนนี้ก็หายไปจากเพื่อน ติดต่อไม่ได้

“โรงแรมนี้ยังอยู่นะคะ เมื่อปีที่แล้วเราถามคนดูแล ว่ายังเปิดอยู่หรือเปล่า เค้าบอกว่า ไม่ได้เปิดแล้ว นี้คน กทม มาซื้อ ไปแล้ว แล้วก็มาจ้างเค้าดูแล ใครมาเช่าก็อยู่กันไม่ได้ เจ้าของเลยปล่อยทิ้งไม่ได้สนใจ นี่เค้าก็ไม่ได้ค่าจ้างนะ เวลาใครมาจอดรถในพื้นที่โรงแรม เค้าก็เก็บเงิน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ แต่ยังมีคนอยู่ 1 ห้อง ชั้น 9 เค้าก็บอกว่า ทั้งโรงแรมอยู่กัน 2 คน เราเลยถามว่าเค้าไม่กลัวหรอ คนดูแลเค้าบอกว่า เค้ามีของๆ ดี เค้าอยู่มาหลายปีแล้ว”

“เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ”

ถ้าคนที่เข้ามาอ่านแล้วไม่เชื่อ ก็คิดสะว่าอ่านหนังสืออ่านเล่นนะคะ อย่าด่า จขกท เพราะ จขกท เป็นคนขวัญอ่อน งืออ

ขอบคุณเรื่องจากกระทู้ผีพันทิป https://pantip.com/topic/37122353fbclid=IwAR0stkxhGuka84B7U_lA8gykzw1ma7hpcQLJHlVyy31bvXvr0Zhr1LTpIVA

Previous articleยุติการเผยแพร่
Next articleยุติการเผยแพร่