เมื่อตอนที่เราเด็กๆ เรามีลูกพี่ลูกน้องคนนึงชื่อว่าพี่หนุ่ม พี่หนุ่มได้แต่งงานกับพี่สะใภ้ชื่อว่าพี่นา แต่งกันมาหลายปีแล้วแต่แกยังไม่มีลูก ตอนเด็กๆเราเป็นเด็กพูดเก่ง พอพี่นาเห็นก็รู้สึกรัก เอ็นดูอยากจะได้ไปเป็นลูก แต่ด้วยที่เราก็เป็นลูกคนแรกของแม่เหมือนกัน แม่ก็ไม่อยากให้ แม่เราจึงบอกกับพี่นาว่า ให้เอาไปเที่ยว พาไปไหนมาไหนได้ แต่ถ้าให้เอาไปเป็นลูก คงให้ไม่ได้
จากนั้นพี่นาก็ให้เราเรียกพี่นาว่า แม่เล็ก ส่วนพี่หนุ่มแกให้เรียกพี่หนุ่มเหมือนเดิม ระหว่างนี้พี่นาแกก็พยายามดิ้นรนทำทุกวิถีทางให้ตัวเองมีลูกอยู่ตลอด
ส่วนตัวทั้งพี่นาและพี่หนุ่มแกไม่เชื่อเรื่องพวกทรงเจ้าเข้าผีอะไรพวกนี้ จนวันนึงเพื่อนพี่นาชวนพี่นาไปหาหมอดู แต่แกก็ไม่ค่อยอยากไป แต่เพื่อนก็คะยั้นคะยอให้ไปให้ได้
พอไปถึงพี่นาก็บอกว่าหมอดูว่าแต่งงานกับสามีมาเกือบ 10 ปีแล้วแต่ยังไม่มีลูก หมอดูเขาก็ทักว่า ดวงของพี่นาเป็นดวงที่มีลูกไม่ได้ เขาทำให้มีได้ แต่จะไม่ได้อยู่จนลูกโต จะเอาไง ด้วยความที่ไม่เชื่อ ในเมื่อลองมาหลายทางแล้วมันไม่ได้ พี่นาก็เลยบอกลองดู
ตอนนั้นเราอายุประมาณ 9 ขวบ หลังจากนั้น 2 เดือนพี่นาก็ท้อง พอคลอดลูกออกมา สุขภาพพี่นาจากที่เป็นคนแข็งแรง ก็กลายเป็นคนอ่อนแอลง ทรุดลงมาเรื่อยๆ จนลูกของพี่นาชื่อว่า น้องโอ๊ด อายุประมาณ 2 ขวบ ร่างกายแกก็เริ่มไม่ไหวแล้ว พี่หนุ่มจึงไปรับเรามาหาพี่นา ถึงตอนนั้นพี่นาแกจะมีลูกแล้ว แต่ก็ยังรักเราเหมือนเดิม
ในวันที่พี่นาเสีย แกนอนอยู่บนที่นอนแล้วเรียกเราให้เข้าไปหา แล้วก็ดึงตัวเราเข้าไปนอนข้างตัวฝั่งนึง และอีกฝั่งนึงก็เป็นน้องโอ๊ด แกก็เอามือลูบหัว ลูบไหล่ลงมาเรื่อยๆ ลูบไปลบมา จนครั้งสุดท้ายลูบไปตรงไหล่แล้วมือแกก็ตกลงไปบนที่นอน….แกก็สิ้นลมหายใจ
พอพี่นาเสียทุกคนก็เดินเรื่องต่างๆ แล้วเอาศพไปไว้ที่วัด ด้วยความที่ผู้ใหญ่ทุกคนยุ่งอยู่ที่วัด เราก็เลยต้องอยู่ที่บ้านดูแลน้องโอ๊ด ผู้ใหญ่ก็สั่งเราให้พาน้องนอน พอน้องหลับแล้ว ค่อยให้เราไปหาอะไรกินที่วัด
พอน้องโอ๊ดหลับ เราก็ไปที่วัด พอกินข้าวเสร็จก็กลับมาที่บ้านเพราะว่าเป็นห่วงน้องโอ๊ด ตัวบ้านก็จะเป็นบ้านยกพื้นสูง พอกลับมาถึงบริเวณบ้านก็ได้ยินเสียงน้องโอ๊ดหัวเราะ เสียงหัวเราะ คิกๆๆๆ เหมือนมีคนมาแหย่ มาจั๊กจี๊ เราก็คิดว่าน้องตื่นแล้ว…
พอเราเปิดประตูห้องเข้าไป ปรากฏว่าน้องโอ๊ดไม่ได้หัวเราะเฉยๆ แต่น้องโอ๊ดหัวเราะแล้วก็พูด แหมะ ๆ ก็คือเรียกแม่ แม่ แต่ตอนนั้นขวบสองขวบยังพูดไม่ชัด เราก็นึกในใจ “แม่เล็กแม่ก็รู้ว่าผมกลัวผีนะ จะมาก็มาได้แต่อย่ามาให้ผมกลัว” แล้วเราก็เดินขึ้นไปหาน้องจะเข้าไปอุ้ม น้องโอ๊ดก็เรียก ยะ ยะ ยะ (เราชื่อยะ) แบบไม่เต็มเสียง สลับกับเรียก แหมะ แหมะ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยอุ้มน้องไปที่วัดเลย
ในคืนนั้น ด้วยความที่พี่หนุ่มแกรักเมียแกมาก แกก็ทำใจไม่ได้ คนส่วนหนึ่งอยู่ข้างล่าง ส่วนหนึ่งก็นั่งกินเหล้ากับพี่หนุ่มอยู่ข้างบน ทีนี้ระหว่างที่กินเหล้า น้องโอ๊ดนอนอยู่ในเปล ซึ่งเปลที่น้องโอ๊ดนอนนั้นจะใช้เชือกไนลอนเส้นใหญ่ๆ ผูกกับคานบ้าน เวลาแกว่งก็จะมีเสียงดัง แอ๊ด แอ๊ด
ตอนนั้นเรา อยู่ข้างล่าง พวกผู้ใหญ่ก็กินเหล้ากันอยู่ อยู่ดีๆ ได้ยินเสียงเชือกดัง แอ๊ด แอ๊ด ผู้ใหญ่ที่กินเหล้าอยู่บนบ้าน ก็เงียบพร้อมกันทั้งหมด แล้วเสียงเชือกก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ สักกพักก็มีเสียงโวยวาย รีบวิ่งลงมาจากบนบ้าน พร้อมตะโกน ผีๆ ผีหลอกๆ แต่พี่หนุ่มกับนั่งร้องไห้ แล้วก็พูดว่า นามาแล้ว นามาหาพี่แล้ว…
พ่อพี่หนุ่มขึ้นไปดูแล้วก็พูดลอยๆว่า นา…เอ็งอย่ามาทำให้คนที่บ้านกลัวเลย แล้วก็เข้าไปปลอบพี่หนุ่มว่า “เมียตายแล้วนะ ทำใจได้แล้ว”
ในคืนแรกยังไม่มีอะไรหนักหนา จะมีก็มีแค่น้องสาวพี่หนุ่มแกออกมาเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำตามบ้านนอกสมัยก่อนจะม่ได้อยู่ที่ตัวบ้าน แต่จะอยู่ข้างล่าง หลังจากที่พีนาเสีย พี่หนุ่มก็ไม่ได้เข้าไปนอนในห้อง แกนอนอยู่ในบริเวณบ้าน แล้วก็เอาลูกมานอนอยู่ตรงนั้นด้วย
ก่อนที่น้องสาวพี่หนุ่มจะลงไปเข้าห้องน้ำ ก็เห็นหลานดิ้น แต่ด้วยความที่แกปวดมาก จึงคิดว่าเดี๋ยวค่อยขึ้นมาดูละกัน หลังจากที่เข้าห้องน้ำเสร็จ แกก็ขึ้นมาดู แกได้ยินเสียงเชือกของเปล แอ๊ด ๆ แกก็คิดว่าสงสัยพี่หนุ่มจะตื่นมาแกว่งลูก แกก็เลยไม่คิดอะไร…
แต่ตอนที่แกเดินกลับห้อง แกต้องผ่านเปลของน้องโอ๊ด พอแกเดินเข้ามาใกล้เปล แกเห็นพี่นานั่งไกลเปลอยู่ในที่มุมมืดๆ แกก็ตกใจ ร้องสะอื้นออกมาเบาๆ เพราะกลัวพี่นาจะรู้ตัวว่าแกเห็น แต่เหมือนว่าพี่นาแกได้ยิน พี่หันมามองน้องพี่หนุ่มทันที แกก็ตกใจรีบวิ่งเข้าห้องไปเลย
พอตอนเช้าน้องพี่หนุ่มก็เล่าเรื่องเมื่อคืนให้พ่อพี่หนุ่มฟัง พ่อพี่หนุ่มก็บอกว่า ไม่ไหวนา ก็เข้าใจว่าลูกสะใภ้เขาก็รัก แต่ถ้าเป็นแบบนี้คนในบ้านก็อยู่กันไม่ไหว พ่อพี่หนุ่มจึงบอกให้เราอุ้มน้องโอ๊ดไปที่วัดตอนเย็นนะ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าพ่อพี่หนุ่มให้อุ้มน้องไปที่วัดทำไม หลังจากพระสวดเสร็จ ก็กลับมาบ้านเหมือนเดิม
เหมือนเดิม… ผู้ใหญ่กลุ่มนึงนั่งกันอยู่ข้างล่าง พี่หนุ่มกับพรรคพวกแกก็กินเหล้าอยู่ข้างบน น้องโอ๊ดก็นอนอยู่ในเปลเหมือนเดิม ทีนี้จู่ๆ ก็มีเสียงโวยวายดังมาจากข้างล่าง ซักพักผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างบนก็เงียบฟัง…มีเสียงผู้หญิงร้องให้อยู่ด้านนอกบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงเท้าเดินรอบบ้านพร้อมเสียงร้องสะอื้นไปด้วย แล้วก็พูดว่า… “ขอนาเข้าบ้านหน่อย นาคิดถึงลูก” พอพี่หนุ่มได้ยิน พี่หนุ่มก็ร้องออกมาแล้วก็พูดว่า “ทำไมนาเข้าบ้านไม่ได้”
เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันต่างพากันปิดประตูปิดหน้าต่างดังปึ้งปังๆ เพราะได้ยินกันทั่วเลย (แต่เราไม่ได้ยิน เราพึ่งมาฝังคนอื่นเล่าที่หลัง) พี่หนุ่มมาถามพ่อพี่หนุ่มว่าทำอะไร ทำไมพี่นาถึงเข้าบ้านไม่ได้ พ่อพี่หนุ่มก็บอกกว่า “ตอนที่พ่อให้ ยะ อุ้มน้องโอ๊ดไปที่วัด เพื่อจะให้นาออกไปจากบ้านและตามไปด้วย พอ ยะ อุ้มน้องโอ๊ดออกไปสักพัก พ่อก็ไปจุดธูปบอกเจ้าที่ว่า อย่าให้นาเข้ามานะเข้ามารบกวนคนในบ้าน”
พอแม่พี่หนุ่มได้ยินแกก็ด่าพ่อยกใหญ่ เพราะแกรักลูกสะใภ้มากๆ “บ้าหรอไปทำแบบนี้ได้ยังไง มันก็แค่รักลูกมัน อยากอยู่กับลูกมัน มันผิดตรงไหน” พ่อพี่หนุ่มก็บอก “ก็เข้าใจ แต่คนในบ้านก็กลัว แล้วจะให้ทำยังไง” หลังจากนั้นพ่อพี่หนุ่มก็ไปจุดธูปบอกเจ้าที่ให้พี่นาแกเข้าบ้านได้ก่อน แต่แกก็กำชับกับพี่นาว่า “พ่อให้เข้าบ้านได้นะ แต่ต่อไปนี้ จะดูลูกก็ดูลูกไป แต่อย่าให้คนในบ้านตกใจนะ” หลังจากนั้น พี่นาก็ไม่มาปรากฏตัวให้ใครเห็นอีก มีแค่น้องโอ๊ดที่เรียกแม่ขึ้นมาลอยๆ เหมือนกำลังเล่นกับแม่อยู่
พี่นาแกก็เหมือนอยู่คุ้มครองคนในบ้านมาอยู่เรื่อยๆ จนน้องโอ๊ดเข้าสู่วัยรุ่น น้องโอ๊ดมีเพื่อนอยู่คนนึง วันนั้นน้องโอ๊ดโทรชวนเพื่อนให้มาหาที่บ้าน เพื่อนบอกว่า “ก็ดี เดี๋ยวจะเอาของไปฝากที่บ้านซัก 2-3 วัน”
ในวันนั้นเพื่อนน้องโอ๊ดก็จะเข้ามาหา แต่พอเข้ามาจอดรถที่หน้าบ้าน เขาเห็นผู้หญิง ยื่นอยู่ที่หน้าประตูบ้านบอกว่า “ไปเลยนะ ไปให้พ้นบ้านกู” เพื่อนน้องโอ๊ดก็ไม่รู้จะทำไง ก็เลยขี่รถกลับไป พอเพื่อนกลับไปก็โทรมาหาน้องโอ๊ด แล้วถามว่า “กูไปถึงบ้านมึง เห็น ผู้หญิงผมทรง… ใส่ชุดสี…ยืนอยู่หน้าบ้านมึง ไล่กูไม่ให้เข้าบ้าน ใครวะ กูไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
น้องโอ๊ดก็ถามกลับไปว่า “ผมทรงนี้ ใส่เสื้อสีนี้แน่นะ” เพื่อนก็บอก “เออ!!” น้องโอ๊ดก็บอก คนที่เห็นอ่ะแม่กู เพื่อนก็บอกว่า “ไม่ใช่ แม่เลี้ยงมึง กูเคยเห็นตอนไปส่งที่โรงเรียน” น้องโอ๊ดบอก “ไม่ใช่แม่เลี้ยง แต่เป็นแม่แท้ๆของกูที่ตายไปแล้ว”
ช่วงบ่ายวันนั้น เพื่อนของน้องโอ๊ดถูกตำรวจจับ เพราะว่าในกระเป๋าเป้มีกัญชา…เพื่อนคงตั้งใจจะเอากัญชามาฝากไว้ที่บ้านน้องโอ๊ด แต่ว่าพี่นาแกคงออกมาปกป้องเพื่อไม่ให้ลูกแกเดือดร้อน
อีกครั้งนึงก็คือแม่เลี้ยงของน้องโอ๊ด หรือว่าแฟนใหม่ของพี่หนุ่ม ชื่อพี่วรรณ ซึ่งแกหมันจึงไม่สามารถมีลูกไม่ได้ แกก็จะรักน้องโอ๊ดมาก ไม่รู้ว่าด้วยความที่พี่วรรณรักน้องโอ๊ดมากหรือป่าว พี่นาก็เหมือนคุ้มครองแกด้วย พี่วรรณเล่าให้ฟังว่าวันนั้นขับรถจะไปรับน้องโอ๊ดที่โรงเรียน ขับไปกำลังจะถึงไฟแดง โดยมีรถเก๋งอีกคันขับคู่ไปกับแกด้วยความเร็วเท่ากัน พอกำลังจะถึงไฟแดง พี่วรรณได้ยินเสียงผู้หญิงเข้ามาในหูแกว่า “หยุด!!”
พอแกได้ยินเสียงก็ชำเลืองตาขึ้นไปมองกระจกมองหลัง ก็เห็นแวปๆ ว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่ที่เบาะหลัง แต่ก็ไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร แกตกใจก็เลยเบรค และตั้งใจจะหันไปมองที่เบาะหลัง แต่ยังไม่ทันหันกลับไปมอง ตรงสี่แยกข้างหน้อามีรถสิบล้อขับผ่าไฟแดงมา สิบล้อคันนั้นก็ชนเข้าไปกลางลำของรถเก๋งคันที่ขับตีคู่มา ถ้าพี่วรรณไม่จอดรถ รถแกก็จะต้องโดนชนด้วยแล้ว
พอพี่วรรณรวบรวมสติได้ แกก็นึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงทีแกเห็นก็คือพี่นา พอกลับไปคุยกับคนที่บ้าน ทุกคนก็สันนิษฐานกันว่าอาจจะเป็นเพราะพี่วรรณรักน้องโอ๊ดมาก เวลาน้องโอ๊ดทำผิดอะไรแกก็จะปกป้องน้องโอ๊ด พี่นาก็เลยอาจจะรักพี่วรรณด้วย
จนเวลาผ่านไป 2-3 ปี น้องโอ๊ดอายุครบบวช แต่แปลกอยู่อย่างคือน้องโอ๊ดจำความเรื่องแม่เขาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เขาก็ยังรักแม่เขามาก พอถึงวันบวช น้องโอ๊ดก็มาคุยกับเราว่า “พี่ยะ ผมจะบวชให้ได้พรรษานึง” เราก็ถามว่า “ทำไมอ่ะ” น้องโอ๊ดก็บอกว่า “ผมตั้งใจจะทำให้แม่” ทั้งๆที่ตอนนั้นน้องโอ๊ดมีแฟน คุณยะก็แซวน้องโอ๊ดไปว่า “ไม่กลัวแฟนไปมีแฟนใหม่หรอวะ” น้องโอ๊ดก็ตอบกลับมาว่า “ผู้หญิงหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่แม่ผมมีได้คนเดียว”
หลังจากที่น้องโอ๊ดบวชก็ตั้งใจปฏิบัติอจนครบ 1 พรรษา จนวันรุ่งขึ้น เป็นวันที่พระสึก และคืนนั้นก็เป็นคืนที่ทั้งสามคนจะได้เห็นพี่นาเป็นครั้งสุดท้าย…. คือเรา พี่หนุ่มและพระโอ๊ด ในฝันของพระโอ๊ด พระกำลังกวาดลานวันอยู่ เขาก็เห็นแม่นุ่งขาวหุ่มขาว เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วก็กราบพระ แล้วก็บอกว่า “พระ แม่ไปแล้วนะ มันถึงเวลาของแม่แล้ว” พระโอ๊ดก็ถาม “โยมแม่จะไปไหน” แม่ก็บอกว่า “พระไม่ต้องเป็นห่วง แม่แค่มาลา แม่ไปในที่ที่ดี เขามาตามแม่นานแล้ว แต่ว่าแม่อยากเห็นผ้าเหลืองพระก่อน แม่ก็เลยอยู่รอ” แล้วภาพของแม่ค่อยๆเลือนลางหายไป
ในคืนเดียวกันนั้น เราก็ฝันว่าไปนอนใต้ต้นใหม่ใหญ่ต้นนึง ซึ่งตอนเด็กๆ เราจะชอบไปนอนตรงแคร่ที่อยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ ในฝันเรานอนหนุนตักพี่นาอยู่ พี่นาเอามือลูบหัวเราแล้วก็พูดว่า “หลังจากนี้แม่ไม่ได้อยู่ด้วยแล้วนะ ฝากดูแลน้องด้วย มีอะไรก็เตือนน้องมั่ง ถึงแม่จะคลอดลูกออกมาแค่คนเดียว แต่แม่มีลูกชายสองคนเสมอ
ส่วนตัวพี่หนุ่มก็ฝันว่า พี่นามาหาที่บ้าน นุ่งขาวห่มขาวขึ้นมา แล้วบอกพี่หนุ่มว่า “พี่หนุ่ม นาไปแล้วนะ หลังจากนี้ก็ดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว ฝากดูแลลูกๆให้ดีๆ ถ้ามีโอกาสเราค่อยกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันใหม่นะ” หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเจอพี่นาอีกเลย….
ขอบคุณเรื่องจาก The Shock แม่เล็ก เรียบเรียงโดยคลังหลอน
***สำนวนการแปลทั้งหมดเป็นของคลังหลอน ห้ามคัดลอกไปลงเว็บอื่น หรือเอาไปอ่านลง Youtube โดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาดนะครับ ***