แก่งกระจาน(ผีดุ)

แก่งกระจาน(ผีดุ)
แก่งกระจาน(ผีดุ)

เหตุเกิดที่แก่งกระจาน ผีดุจริงๆ

ในบันทึกนี้ จะรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งยืนยันว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง บุคคลที่ถูกอ้างอิง ขอใช้นามสมมุต ทั้งหมด

เริ่มเรื่องเลยนะครับ ผมไปกับเพื่อน 2 คน คือ จำปูนและท๊อป  คู่นี้เค้าเป็นแฟนกัน ไปเจอกับเพื่อนที่รออยู่ แล้วที่แก่งกระจานคือ หม่อนและอิ๋ว

เราเจอกันครบแล้วก็จัดแจงซื้ออุปกรณ์เตรียมตัวเมา  มีเบียร์กระป๋อง 1 ลังและกับแกล้ม เสร็จแล้วเราก็กลับมาที่จุดกางเต็นท์ เช่าอุปกรณ์การนอน แล้วช่วยกันกางเต็นท์

บรรยากาศมันสุดยอดมาก ผม ท๊อป และ จำปูน บอกเลยว่า มันเจ๋ง ไม่คิดเลยว่าใกล้ๆกรุงเทพ ก็สวยขนาดนี้

จุดกางเต็นท์ เรา อยู่ริมน้ำติดกับน้ำเลย บรรยากาศตรงนั้นสุดยอดมาก  เรามี 3 เต็นท์ล้อมกัน หันหน้าไปทางน้ำ ตำแหน่งการกางเต็นท์ของเราเป็นอย่างนี้ถ้ามองจากมุมบน ทางทิศตะวันออก

ภาพประกอบ

ตกดึก เรานั่งกินเบียร์กันหน้าเต็นท์ของตัวเอง ซึ่งจะล้อมกันกินพอดี เป็นการจัดตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมมาก

กินไปสักพัก เสียงเริ่มดัง ความสนุกมันฉุดไม่อยู่ เริ่มมีการพูดจาลามปาม เวลานั้นไม่รู้อะไรดลใจผมปิ๊งไอเดีย บทหนังขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น ก็เลยเล่าให้เพื่อนฟัง กลัวจะลืม

เรื่องมีอยู่ว่า มีวัยรุ่นคนนึง ชอบโดนเพื่อนแกล้ง เค้ามาเที่ยวแก่งกระจานกับเพื่อน ก็มากางเต็นท์กันตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ในจุดที่เรานั่งกันอยู่นี่แหละ มีคนซุบซิบว่า เมื่อวานมีเด็กจมน้ำตายแล้วเค้าก็เอาศพมาพักไว้ตรงเสาไฟที่ไฟมันดับ พบว่ามันพอดีกับที่เค้ากางเป๊ะเลย ขยับเต็นท์ออกไปอีกข้างหนึ่ง ตรงเสาไฟที่มีไฟติด เสร็จก็หลับไป  

ทีนี้จะตื่นไปฉี่ ออกมานอกเต็นท์ พบว่าไฟที่อยู่หน้าเต็นท์ มันค่อยๆคิดๆดับๆ จนดับไปเลย แล้วอีกฝั่งนึงที่เพิ่งหนีมานั้นติดแทน ทีนี้ก็โดนผีหลอกไป ตูยังคิดบทสรุปของหนังต่อไม่ได้ เดี๋ยวค่อยคิดละกัน

ผมทิ้งประโยคไว้แค่นี้ เหมือนผีมาช่วยคิดตอนจบให้ ยังไงก็ไม่รู้

หลังจากเล่าๆ คุยๆกันไป เบียร์ก็หมด ผมกับท๊อปอาสาออกไปซื้อกันข้างนอก ปล่อย อิ๋ว จำปูน หม่อน อยู่ที่เต็นท์

เราซื้อเสร็จ กลับมาก็เหมือนทุกอย่างจะปกติ นั่งพูดคุยกันต่อ และเหตุการณ์ความไม่สงบก็เริ่มตั้งแต่ตรงนี้เป็นต้นไป

จำปูนมองไปที่ฝั่งหลังเต็นท์ผม จนละสายตาไม่ได้ พอมองตามไป ก็ปกติ ตรงนั้นเป็นต้นไม้ที่โผล่พ้นน้ำมาแค่นั้นเอง มีแสงไฟ ลอดมาทำให้หลอนได้แต่ก็ไม่เท่าไหร่นะ

แต่จำปูนสิ มองไม่กระพริบตา น้ำตาไหล เริ่มคุยไม่รู้เรื่อง เพื่อนๆเริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบกล อิ๋วเห็นท่าไม่ดี พนมมือไหว้พระสวดอะไรสักอย่าง 

หม่อน เบนหน้าจำปูนไป มองตา แล้วบอกว่า “ไม่มีอะไรทั้งนั้น -เหล้าต่อ” แต่เหมือนทุกอย่างจะสายไปแล้ว ผมเอาพระที่ติดตัวตลอด ห้อยคอ จำปูน 

จำปูนจับที่พระ จนมือสั่น สายตายังคงจับจ้องไปที่จุดๆเดิมอย่างไม่กระพริบสายตา น้ำตาเธอไหล ผมบอกจะโทรหาพี่เก๋แล้ว แบบนี้ท่าไม่ดีแน่ๆ  มันพูดสวนกลับมาว่า

“ไม่ต้องโทรหาใครหน้าไหนทั้งนั้น มันเป็นเรื่องของกู  กูคนเดียว”

และปูนก็หยุดร้องไห้ และบอกว่า ตัวเอง ยังไม่เป็นอะไรเลย และไม่ได้ร้องไห้ [อันนี้ผีเข้าแล้วนะ แต่ทุกคนไม่รู้ รวมทั้งผมด้วย]

ปูนกลับมากินเบียร์ต่อ สนุกสนาน คุยกับคนโน้นคนนี้ แต่จะแอบสายตาคนอื่น ไม่ให้ใครเห็น มองมาที่ผม ด้วยสายตาที่อาฆาตมากๆ เป็นแบบนี้ 5 รอบได้

ตลอดเวลานั้น จำปูนจะพยายามทุกทางเพื่อที่จะได้คุยอะไรบางอย่างกับผมแค่ 2 คน ชวนไปห้องน้ำ ชวนไปนั่นไปนี่ ต้องมีผมไปด้วย ทั้งๆที่ปกติแล้ว ปูนจะไปกับท๊อปตลอด เพราะท๊อปเป็นแฟนมัน แต่ผมก็ไม่ไปกับมันนะ พอจะรู้แล้วล่ะว่าเนี่ยไม่ใช่จำปูน

ผมเลยชวนท๊อปแฟนปูนออกไปห้องน้ำ ไปนั่งคุยกันว่าแฟนหลอกหรือเปล่า เตี๊ยมกันแกล้งกูหรือเปล่า

ท๊อปมันงงยิ่งกว่าผมอีก มันก็กลัวเหมือนกัน นั่งคุยกันนานเลย

พอกลับไปอีกที อื๋ว กุมารเข้า ก็คงเพราะเธอไหว้เรียกมาตอนนั้นนั่นแหละ ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำปูน และหม่อน ผมกับท๊อปมองหน้ากันเห้ย นี่มันชักไปกันใหญ่แล้ว

ผมพูดเลยว่า ถ้าแกล้งกูนะ ถ้าพวกเตี๊ยมกันนะ กูกลับกรุงเทพวันนี้เลย [ผมยอมรับเลยว่าหัวเสียมากๆถ้ามันแกล้งกันแบบนี้ไม่สนุก คนจะมาเที่ยว มันหลอนมาก]

ตอนกุมารเข้าอิ๋ว ท๊อปรู้ก่อนเพราะบ้านเค้าก็เป็นแบบนี้ อิ๋วนั่งกอดขนม กอดน้ำไม่ให้ใครกินได้ทั้งนั้น

ผมเลยเรียกปูนออกมาคุยกัน

ตอนนั้นยอมรับว่าโมโหมาก  ผีก็ผีสิวะ จำปูน เดินตามออกมา ทำหน้าแบบว่า  ได้เวลาแล้วสินะ ปูนพูดขึ้นมาว่า “แค่2คนพอนะ” ผมก็บอก “เออได้”  ในใจก็หวั่นๆแหละ แต่โมโหมากกว่า ท๊อปเดินตามมาด้วย

ก็ เลยคุยกัน 3 คน

ทีนี้เหตุการณ์แบ่งเป็น 2 ฝ่าย หม่อน อิ๋วที่กุมารเข้าอยู่ด้วยกัน เฟรม ปูน ท๊อป  อยู่ด้วยกัน อีกฟากหนึ่ง ผมคุยกับ ปูน ซึ่ง ท๊อป ก็ช่วยเล่าและบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวมันก่อนหน้านี้ มันบอก มันจำไม่ได้ ไม่ได้ร้องไห้อะไร ผมบอกให้นึกดีๆ  พอมันนึกได้ แววตาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เป็นเหมือน ตอนนั้นเป๊ะ น้ำตาไหล ตาแดง แล้วโมโห โวยวายทันที มือ ที่ถือเบียร์ ก็บีบซะกระป๋องปี้ ป่นปี้ ขว้างพระในมือ ที่ผมยื่นให้ แตกกระจายเต็มพื้นไปหมด ท๊อปพยายามดึงฉุดกระชากให้สงบแต่ปูนแรงเยอะมาก

“คุณเป็นใคร ชื่ออะไรตายยังไง เดี๋ยวทำบุญไปให้”  ท๊อปพูดกับจำปูน ซึ่งปักใจแล้วว่าเป็นผีแน่นอน ปูนไมตอบ น้ำตาไหล โมโหอยู่ ผมเห็นท่าไม่ดี จะเรียกเพื่อนมาช่วย วิ่งกลับไปหา หม่อน อิ๋ว  

ฟากนี้ก็หนักพอๆกัน อิ๋ว กำลังโยนเส้นฟิชโช่ ขนม ลงน้ำ แล้วพูดว่า “โน้นๆ น้องๆเค้าอยากกิน เด็กๆเค้าหิวนะ” 

ยิ้ม คือยิ้มหลอนทั้ง 2 ฝั่ง ผมเลยตะโกนว่า “ไอหม่อน ผีเข้าไอ้ปูน นี่มันเรื่องจริงเลยเว้ย รีบวิ่งไปดูมันหน่อย” แล้วผมก็วิ่งกลับไปหา ปูนท๊อป ทีนี้ วิ่งไปสะดุดขาเต็นท์คนอื่นหน้าทิ่ม ช็อตนี้เหมือนจะฮา แต่ยิ้มฮาไม่ออก จุกมาก เจ็บมาก

สิ่งที่น่าแปลก และเริ่มรู้สึกว่า ความวุ่นวาย ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเสียงดังๆ วุ่นวายนั้น คนรอบข้าง เต็นท์ใกล้ๆ ไม่มีใครสนใจเลย เหมือนโดนบัง ไม่มีใครมาดูว่าผมสะดุดล้ม ฟาดพื้นนั่งจุก ทั้งๆที่เค้าก็นั่งกันอยู่ใกล้ๆมากๆ

หายจุกก็เดินไปต่อ หาปูนท๊อป หม่อน อิ๋ว ที่อยู่ด้วยกันแล้ว อิ๋วซึ่งกุมารเข้านั้น ยื่นหน้าไปใกล้ๆปูน สักพัก แล้วทั้งคู่ก็มองมาที่หน้า ผมพร้อมๆกัน  ทั้ง2คนไม่ได้คุยอะไรกันเลยนะ มันมองหน้ากันอย่างเดียวเลย

แต่พอเดาออกว่า ความหมายคืออะไร

ผมพยายามโทรหาพี่เก๋ ส่งรูปเหตุการณ์ให้พี่เค้า พี่เก๋บอกว่าวันนี้จะไม่ได้อยู่ถึงเช้าหรอก มีคนตาย 1 คน  เค้าแรงมาก ผีเยอะมาก ไปลบหลู่เค้า

จำปูนชวนผมไปห้องน้ำ โดยไม่ให้ใครตามไปทั้งนั้น ผมกลัวนะ แต่ก็ต้องยอมไป มันเดินๆผลักๆผมตลอด จนถึงหน้าห้องน้ำหญิง มันไม่ยอมหยุด  จนผมต้องทักว่า “ไหนบอกจะมาห้องน้ำไง ” มันเลยหยุด

แล้วมันก็พูดว่า “พวกเชี่ยเนี่ย พวกเนี่ย มันคิดว่ากูบ้า คิดว่ากูเพี๊ยน คิดว่ากูประสาท เชื่อกูปะ” พูดซ้ำๆแบบนี้หลายๆรอบ จนผมสงสารเพื่อนผมแล้ว ไอ้ปูนมันไม่เป็นแบบนี้ ผมร้องไห้ ขอร้องมันให้มันกลับมาเป็นปูนเหมือนเดิม ถ้าพูดอะไรไม่ดีไป อโหสิกรรมให้ด้วย ขอโทษ

ปูนเลยเดินไปในห้องน้ำ ท๊อปเดินมาสมทบกับผมอีกที ก็คุยกัน ปูนเข้าไปนานมากๆ จนน่าแปลกใจ  ท๊อปเลย เข้าไปตาม มันก็ไม่เปิดประตูให้ ท๊อปเลยปีข้ามฟากห้องน้ำเข้าไปหา นั่งพูดคุยกับปูนอยู่นาน จนท๊อปเองโมโห เอาน้ำฉีดตูด ฉีดใสจำปูนจนเปียก 

แล้วเราก็คุยกันว่า ไม่ทนแล้ว จะกลับเดี๋ยวนี้อยู่ไม่ได้แล้ว ตกลงกันว่า จะไปนอนบ้านหม่อนที่อยู่หัวหิน

ตอนจะกลับ ปูนก็ ไม่ยอมไป งอแง จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนทั้งนั้น ยืนสุบบุหรี่ในท่าผู้ชาย ซึ่งไม่คุ้นตาไม่เคยเห็น 

พอเราสตาร์จรถ ปูนก็ ล้มตัวนอนลงกับพื้นตัวคลุกดิน หน้าคลุกฝุ่นไปเลย หม่อนต้องเข้ามาพาขึ้นรถ

ผมกับท๊อปไปคือ เต็นท์ ตอนนั้นตี 2 เจ้าหน้าที่คงรู้ เลยไม่ถามอะไรมากเลย และให้คืนโดยดี

ระหว่างทาง ปูน ก็ยังไม่หาย นั่งนิ่งไม่พูดจา จับหัวร้อน มือเย็นอย่างคนตาย ท๊อปดูแลอยู่ข้างๆตลอด ปูนพูดไม่เป็นตัวเอง ถามชื่อ ไม่ตอบ

ถึงบ้านหม่อน ปูนก็ดีขึ้นและกลับมาเป้นปูนอีกครั้ง เพราะให้ไหว้พระระหว่างไหว้ก็เรอ อยากขี้อยากตด อยากเยียว พอเสร็จกิจก็เป็นปกติ

ตอนนอน ปูนปวดหัวมาก ผมกับท๊อปเลยต้องนั่งเฝ้าจนกว่ามันจะหลับ ระหว่างหลับ เราสองคนก็แอบงีบ ผมหลับไม่ได้ ระหว่างนั้นสะดุ้งตลอด เป็นแบบนี้ 5 รอบได้

รู้แหละว่า ออกจากปูนพยายามจะทำอะไรต่อ ผมหันไปเห็น ผู้ชายคนนึงผ่านกระจก ยืนตัวติดประตู

มองมาทางที่พวกเรา ผมก็บอกไปว่า” ถ้าเป็นแบบนี้เราก็แย่ เค้าก็แย่ ยิ่งทำกรรม จะยิ่งแย่ ไปซะ เดี๋ยวทำบุญไปให้ ขอโทษทุกอย่าง” เค้าก็ค่อยๆหายไป

เช้ามาปูนก็ดูปกติ เราจึงกลับ กทม ระหว่างทางมีอาการปูนยังติดๆอยู่ จะอ๊วก ตลอดทาง เรอ ตลอดทางจนเข้าเขตกทม

เราได้ถามปูนว่า จำอะไรได้บ้างไหม ปูนบอกจำไม่ได้เลย ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ นั่งกินเบียร์กันอยู่ แค่นั้น แล้วก็มาอยู่บ้านหม่อนแล้ว

ถามแม่หม่อน แม่บอกว่า ส่วนใหญ่คนที่เจอก็คือคนที่กินเบียร์กินเหล้านั่นแหละ เค้าอยากมาสนุกด้วย เห็นเราสนุกกัน และเราไปท้าทาย ลบหลู่ ที่นั่น

สิ่งที่เราผิดเลย

1.ลบหลู่เล่าเรื่องความตายของเค้าเป็นเรื่องสนุก

2.กินเบียร์เสียดังสนุกเกินงาม ไม่เส้นเจ้าที่

3.ปูนไม่ถูกกับน้ำอยู่แล้ว เคยดูหมอว่า จะอายุสั้น ตายเพราะน้ำ เหมือนญาติ [ญาติปูน 7 คน ตายเพราะน้ำทุกคน]

ถ้าเราไม่กลับ มันง่ายมากเลย ที่ปูนจะลงน้ำและตายไปเพราะตลอดเวลา ปูนบอกอยากลงน้ำ อยากเล่นน้ำ ทั้งๆที่ตัวปูนจริงๆค่อนข้างกลัวน้ำด้วยซ้ำ การที่เราตั้งเต็นท์ใกล้น้ำแค่ 2 ก้าว  มันค่อนข้างเสี่ยงจริงๆ

กลับมาเรามาค้นข้อมูล ก็พบว่าเคยมีคนไปแก่งกระจาน แล้วก็เป็นแบบเรามาแล้ว เหมือนกันแทบทุกกรณี ทั้งจุดกางเต็นท์ ต่างๆ แก่งกระจานผีดุจริงๆนะ เราไม่รู้ ว่าเค้าแรง ถ้ารู้คงไม่ทำอะไรเกินงามขนาดนั้น…

ขอให้ดวงวิญญาณสู่สุขติ

สาธุ

ขอบคุณเรื่องหลอน ๆ จาก พันทิป

Previous articleใครตามหลัง เขาคิชกูฎ จันทบุรี
Next articleยุติการเผยแพร่