ลานจอดรถชั้น 4 ณ.ห้างสรรพสินค้าย่านฝั่งธน

ลานจอดรถชั้น 4
ลานจอดรถชั้น 4

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เองค่ะ  ถือเป็นเหตุการณ์ชวนหลอนที่เราอยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วย  แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยตาตนเองก็ตาม

คือเราบ้านอยู่แถวบางบัวทอง  ตอนนั้นพอดีว่ามีน้องสาว (ลูกพี่ลูกน้อง) ที่มาจากสุพรรณแวะมาหาที่บ้าน  ด้วยความดีใจที่ไม่ได้เจอกันนานก็เลยชวนน้องไปเที่ยว ก่อนไปก็โทรหาแฟนซึ่งบ้านแฟนอยู่แถวบางแค  ว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี  แฟนเลยบอกว่าไปดูหนังก็ดี  ซึ่งตอนนั้นเรากับน้องสาวก็กำลังอยากไปพอดี

ในตอนแรกเรากะจะไปดูที่โรงหนังในห้างแห่งนึง แต่ปรากฏว่าที่นั่นคนเยอะมาก เพราะเป็นช่วงเลิกงานพอดี  ก็เลยขับรถเลยมาอีกห้างนึงที่อยู่แถวบางแคแทน  ซึ่งที่นี่คนจะน้อยกว่า กว่าจะไปถึงที่ห้างแห่งนั้นก็ช่วงค่ำพอดี แฟนเราที่เป็นคนขับรถ วิ่งหาที่จอดรถมาเรื่อยๆ จนมาได้ที่ชั้นสี่  

พอพวกเราเดินลงจากรถ ระหว่างทางที่จะเดินเข้าตัวห้าง น้องสาวที่มาด้วยก็บ่น ในทำนองว่า “ทำไมที่จอดรถห้างนี้กลิ่นมันเหม็นจัง ?”

เราก็บอกน้องไปว่าที่นี่มันเคยเป็นห้างเก่ามาก่อน ก่อนที่จะมาปรับปรุงแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่ ซึ่งสภาพก็อย่างที่ทราบกันว่าดูเก่าและโทรมเอามากๆ

เราบอกน้องว่า กลิ่นท่อน้ำก็เหม็นแบบนี้ แต่น้องเรามันกลับบอกว่ามันเหม็นเหมือนกลิ่นอย่างอื่นมากกว่า  แล้วก็ทำทีเดินมากระซิบเราว่า “เหมือนกลิ่นคาวเลือด..!!..ยังไงยังงั้น”

ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าน้องสาวเราคนนี้เขาเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกค่ะ คือเขาเห็นผีและก็สื่อสารกับเรื่องแบบนี้ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  จนเมื่อก่อนตอนเด็กๆ ที่อยู่ด้วยกันเราแทบไม่กล้าจะไปไหนกับมัน เพราะมันเล่าว่าไปนู่นก็มักเจอ ไปนี่ก็มักเห็นอยู่เป็นประจำ

แต่ก็เอาเถอะ  เราพยายามจะไม่คิด ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวว่ามัวแต่พูดถึงเรื่องน่ากลัวจะดูหนังไม่สนุกเอา  แต่ฝ่ายแฟนเราเขาเป็นคนเชื่อนะ พยายามถามน้องสาวอยู่นั่น  “ว่ากลิ่นเป็นยังไงๆ”  จนเราต้องพยายามพูดตัดบทไป สรุปกว่าจะนั่งกินข้าวเสร็จ ได้เข้าไปดูหนังก็เป็นรอบสุดท้ายแล้ว ก็ไม่เป็นไรถือว่าดีซะอีก  เพราะคนจะได้ไม่เยอะดีด้วย

หนังที่เราดูวันนั้นเป็นหนังฝรั่งเรื่องนึง มีคนดูในโรงไม่เยอะ บรรยากาศภายในโรงหนังก็ออกจะหลอนๆ หน่อย  หรือว่าเราไม่เคยมาดูหนังที่นี่ก็ได้มั๊ง  พยายามเข้าข้างตัวเอง

กว่าหนังจะจบ น่าจะประมาณสี่ทุ่มคะ พอออกจากโรงเราก็ชวนน้องสาวไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้โรงหนัง  ขอบอกเลยค่ะ ว่าห้องน้ำที่นี่ก็น่ากลัวใช่ย่อยเหมือนกัน พอเข้าไปแล้วแทบอยากจะวิ่งออกมาเลย เพราะทั้งเปลี่ยวและวังเวงอะไรขนาดนั้น ดีที่ว่าไม่เจออะไร

พอเดินออกมาก็เห็นแฟนที่ยืนรออยู่ก่อนตรงหน้าห้องน้ำ แล้วก็พากันเดินออกไปตรงที่จอดรถ อาจเพราะวันนั้นเป็นวันธรรมดา คนไม่ค่อยมีด้วยมั๊งค่ะ ทางเดินตั้งแต่ในห้างจนออกไปที่จอดรถนั้นแทบจะไม่มีคนเลย เข้าใจว่าส่วนนึงคงออกไปก่อนหน้าเราหมดแล้วก็ได้

จังหวะที่เดินออกมาเพื่อหารถที่จอด ตอนแรกก็งงๆ คือเรากับแฟนต่างจำไม่ได้ว่าจอดรถอยู่โซนไหน  รู้แต่ว่าจอดชั้นสี่ จึงเดินหากันแบบงงๆ แล้วระหว่างที่เดินหารถกันอยู่นั้น อยู่ๆ น้องสาวเรามันก็ทำหน้าตกใจขึ้นมา แต่ตอนนั้นมันไม่ได้บอกเรานะว่าเรื่องอะไร หรือว่าเห็นอะไร แล้วมันก็รีบเดินไปดูตรงข้างเสาต้นนึงซึ่งอยู่ใกล้กับที่ด้านข้างอาคาร

แล้วน้องเรามันก็ทำสีหน้างงๆ พร้อมกับชะโงกหน้าไปดูตรงที่มันเป็นขอบกันตก ซึ่งเมื่อมองลงไปข้างล่างจะเห็นเป็นถนน น้องเราทำท่ามองเหมือนว่าเขาพยายามจะหาอะไร

ตอนนั้นเรานึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พลางกวักมือเรียกให้เดินไปอีกทางนึง ซึ่งขณะนั้นแฟนเราหารถที่จอดเจอแล้ว พอทั้งหมดขึ้นรถแล้วขับกันออกมา น้องเราก็ยังไม่แคล้วกวาดสายตาไปมองตรงนั้นอีก  พร้อมสีหน้าแววตาที่ดูหวาดกลัว  ปากสั่นมือสั่นไปหมด

เราได้แต่บอกว่า ถ้าเจออะไรไว้ค่อยเล่านะ อย่าเล่าตอนนี้เพราะเรากับแฟนก็กลัวเหมือนกัน จนรถวิ่งออกไปจากห้าง รถวิ่งไปจะใกล้ถึงบ้านเราย่านบางบัวทอง แฟนเราจึงเอ่ยปากถามน้องสาวเราว่า “เมื่อกี้ที่ในห้างมีอะไรหรือ  เล่าได้แล้วนะ”

น้องเราก็เล่าว่า เมื่อตอนที่เดินมาหารถตรงที่จอดรถนั้น มันเห็นอะไรบางอย่างที่ตอนแรกคิดว่าเป็นคน  ร่างนั้นมายืนแอบอยู่ที่ข้างเสา ขณะที่น้องมองไป ต่อมาเขาก็โผล่ออกมาทำให้เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ชาย  แล้วเขาก็หันมองมา ก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนราวปูนกันตก แล้วก็กระโดดลงไปอย่างรวดเร็ว!!

ซึ่งตอนแรกน้องเราคิดว่าตัวเองคงตาฝาดไปรึเปล่า หรือเป็นคนโดดลงไปเพื่อฆ่าตัวตายจริงๆ แต่พอวิ่งไปดูก็ไม่เห็นมีใคร  แล้วพอไปชะโงกลงไปดูก็ไม่เห็นว่ามีใครร่วงลงไปสักคน ซึ่งถ้าคนโดดลงไปจริงๆ คงตายแน่ๆ  เพราะมันสูงตั้ง 4 ชั้น แถมข้างล่างก็คงไม่เงียบ คงมีคนวิ่งมาดูกันจ้าละหวั่น

พอเราฟังน้องเราเล่าจบก็ขนลุกเลยสิคะ แม้น้องจะเห็นแค่คนเดียวส่วนเรากับแฟนไม่เห็น แต่เราก็เชื่อเรื่องที่น้องเล่าโดยสนิทใจ จึงได้แต่คุยกันในรถว่าที่ห้างนั้น ก่อนหน้านี้เคยมีใครมาโดดตรงลานจอดรถเพื่อฆ่าตัวตายรึเปล่านะ ? แต่ก็ไม่มีใครรู้เพราะแฟนเราเขาก็ไม่ค่อยเข้าห้างนี้อยู่แล้ว รวมถึงเราเองก็ไม่ใช่คนแถวนั้นก็เลยไม่ได้ติดตามข่าว

จนมาวันรุ่งขึ้น เรานึกยังไงไม่รู้ลองค้นหาดูประวัติของห้างแห่งนั้นในกูเกิล ทีนี้ถึงกับขนลุกซู่เลยค่ะ เพราะปรากฏว่าเคยมีข่าวคนโดดลงมาเพื่อฆ่าตัวตายจริงที่ลานจอดรถในห้างแห่งนี้  และหลายรายมาแล้วด้วย  แถมในข่าวยังระบุว่าคนที่มาโดดฆ่าตัวตายมักจะโดดตรงชั้นนี้ด้วย

แต่ที่หลอนที่สุด คือมีรายนึงที่เพิ่งจะเกิดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ดูในเนื้อข่าวลักษณะเขาเป็นผู้ชายอายุกลางคนแล้วล่ะ แถมการแต่งตัวเมื่อเราถามน้องสาวเรา  ปรากฏว่าตรงกันเป๊ะเลยค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าน้องเรามันก็ไม่เคยทราบข่าวนี้มาก่อนเหมือนกัน  เล่นเอาเราทั้งสามคนต่างพากันหลอนเลยทีเดียว 

และนับจากนั้นเป็นต้นมา เราก็ไม่เคยกลับไปดูหนังรอบดึกที่ห้างแห่งนั้นอีกเลยค่ะ  ถือเป็นอะไรที่รู้สึกขนหัวลุกทุกทีเวลาที่นึกถึงเรื่องนี้  แม้ตัวเราจะไม่เห็นกับตาตัวเองก็ตามที…

ขอบคุณที่มาสยองขวัญวาไรตี้

ติดตามอ่านเรื่องเล่าผีต่อได้ที่ คลังหลอน

Previous articleนอนกับผี ที่โรงแรมใหญ่ชื่อดังย่านหาดจอมเทียน ที่มีฝรั่งโดดตึก
Next articleแดนพิศวง กระสุนธรรมดาทำอะไรพวกมันไม่ได้หรอก